รับทราบข้อหา

เอ็ม หลานอดีตรมว.นอนคุกต่อ ศาลอาญายังไม่ให้ประกันตัว ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้นัดฟังคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายอภิดิสร์ หรือเอ็ม อินทุลักษณ์ อายุ 33 ปี หลานชายอดีต รมว.ต่างประเทศ เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ผู้ต้องหาคดีข่มขืน น.ส.แนน อายุ 22 ปี ดาราสาว กรณีเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ทนายความได้ยื่นคำร้องครั้งที่ 3 พร้อมหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาท ขอประกันตัวซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยก่อนหน้านี้ศาลอาญาได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน สน.โชคชัยเเละพยานคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายเเล้ว และวันนี้มีการเบิกตัวนายอภิดิสร์ หรือเอ็ม ผู้ต้องหามาศาลด้วย ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์ว่า จากการไต่สวนคำร้องขอประกันตัวเห็นว่า การที่จำเลยมีการนำคลิปที่มีเหตุกระทำชำเรามาเป็นพยานหลักฐานในการไต่สวนขอประกัน ส่อเจตนาว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หากปล่อยไปเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ยกคำร้อง ขณะที่นายอภิดิสร์ หรือเอ็ม กล่าวว่า อยู่ข้างในลำบากมาก จึงจะต่อสู้คดีถึงที่สุด เมื่อถามถึงคลิปที่แอบถ่ายผู้เสียหาย นายอภิดิสร์ปฏิเสธตอบคำถาม ทางด้านทนายความของผู้ต้องหา เตรียมยื่นคำสั่งขออุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวต่อไป

หลานชายอดีต รมว. เข้ารับทราบข้อหาตามหมายเรียก สามารถชี้แจงได้ นายเอ็ม ผู้ถูกกล่าวหาในคดีข่มขืนกระทำชำเราดารานักแสดงสาว อายุ 22 ปี ที่ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.หญิง ชิดชนก แฟงทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย ตามหมายเรียก โดยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน นายเอ็ม เปิดเผยว่า วันนี้ตนมีหลักฐานชัดเจนว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการแบล็กเมล์ ขณะนี้ข่าวที่ออกไปทำวงศ์ตระกูลของตนเสียหาย การนำตาของตนมาเกี่ยวข้องนั้นรู้สึกเสียใจมาก เพราะคดีมีผู้เกี่ยวข้องเพียงตนคนเดียว ไม่อยากให้นำครอบครัวของตนมาเกี่ยวข้อง ที่มาวันนี้ก็เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตามที่ผู้กล่าวหาบอกว่าตนมีเส้นสายกับตำรวจ ตนไม่รู้จักใครแต่อย่างใด ตนเพิ่งกลับจากไปเที่ยวที่หัวหิน รู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  โดยในวันเกิดเหตุ ตนได้ไปกับผู้ถูกกล่าวหาจริง เพราะผู้กล่าวหาได้ติดต่อมาหาตนว่าทะเลาะกับพี่สาว และอยู่ที่สยามสแควร์คนเดียว กระทั่งช่วงกลางคืนได้บอกตนมาว่าไม่กลับห้อง ให้แนะนำโรงแรมให้ ตนจึงแนะนำโรงแรมแถวสุขุมวิทไปให้ แต่อีกฝ่ายบอกว่าราคาแพงเกินไป ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นแชท อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ไปส่งเพียงอย่างเดียว แต่ไปที่โรงแรมโดยนำเหล้าโซจูไปด้วย และไม่ได้เป็นการไปพูดคุยเรื่องงาน แต่เรื่องที่เกิดในห้องนั้นตนมีหลักฐานทั้งหมด ว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง ส่วนตัวรู้จักกับผู้ถูกกล่าวหา เพราะเคยติดต่อไปให้รีวิวสินค้า โดยรู้จักกันก่อนหน้าวันเกิดเหตุไม่ถึงเดือน ไม่เคยมีการคบหากันแต่อย่างใด โดยคลิปเสียงที่ปรากฎออกมาเป็นคลิปที่ถูกตัดมา สิ่งที่กังวลคือชื่อของตนออกไปในสื่อสังคมออนไลน์เยอะ และบางคนอาจไม่เข้าใจ ไม่ได้ฟังจากตน ขอให้ผู้สื่อข่าวเป็นกระบอกเสียงให้ เพราะตนเป็นชายธรรมดาคนหนึ่งที่ถูกรังแกเท่านั้น