นพ.ศุภกิจ เผยไทยติดเชื้อโควิด XBB และ BF.7 พบแล้วอย่างละ 2 ราย
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วย นพ.อาชวินทร์ โรจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงข่าว ประเด็นการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 โดย นพ.ศุภกิจ เปิดเผยว่า ประเทศไทยการติดเชื้อสายพันธุ์หลักยังเป็นสายพันธุ์ BA.5 โดยเฉพาะสายพันธุ์ย่อยคือ BA.5.2 ขณะที่ สายพันธุ์ BA.2.75 ในปัจจุบันพบในไทยประมาณ 30 ราย ส่วน BA.2.75.2 พบแล้ว 8 ราย นอกจากนี้ ยังพบโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม คือ XBB โดยพบในประเทศไทย จำนวน 2 ราย เป็นหญิงชาวต่างชาติ อายุ 60 ปี และหญิงไทย อายุ 49 ปี แต่ปัจจุบันหายเป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ BF.7 ในไทย 2 ราย เป็นชายอายุ 16 ปี อาศัยอยู่ในประเทศไทย และหญิงอายุ 62 ปี เป็นบุคลากรทางการแพทย์ โดยทั้ง 2 คน อาการไม่รุนแรง ส่วนสายพันธุ์ BN.1 พบในไทยที่ยืนยันแน่นอนแล้ว จำนวน 3 ราย และกำลังอยู่ในระหว่างนำเข้าเผยแพร่บนฐานข้อมูล GISAID จำนวน 7 ราย รวมเป็น 10 ราย ขณะที่สายพันธุ์ BQ.1.1 ยังไม่พบในประเทศไทย แต่อยู่ในช่วงจับตา เนื่องจากแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถหลบภูมิคุ้มกันได้ดี อีกทั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ทั่วโลกพบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวมากที่สุด
นพ.ศุภกิจ ยังระบุว่า หากประชาชนมีอาการป่วยยังคงอยากให้ตรวจหาเชื้อ เพื่อระมัดระวังตนเอง และเพื่อไม่ให้ไปแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่น เพราะหากแพร่เชื้อมาก โอกาสการกลายพันธุ์ก็จะมีมากขึ้น ขณะที่มาตรการ D-M-H-T คือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ และตรวจหาเชื้อเมื่อมีอาการ ยังคงช่วยป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ดี ส่วนวัคซีนเข็มกระตุ้นก็ยังยืนยันว่าเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และในกรณีที่ฉีดเข็มสุดท้ายเกิน 4-6 เดือน โดยขณะนี้วัคซีนในไทยถือว่ายังมีเพียงพอ อีกทั้งการเสียเสียชีวิตจากโควิดในปัจจุบันยังพบว่าเป็นผู้ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบโดสเป็นส่วนใหญ่