อัพเดทข่าวสารบ้านเมือง

cover-photo-3tnew

"โอไมครอน" ระบาดต่อเนื่องลุกลามไปแล้ว 25 ประเทศทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อ 259 ราย

โอไมครอน

อัปเดต “โอไมครอน” ลุกลามไปแล้วกว่า 25 ประเทศทั่วโลก ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 359 ราย นานาประเทศเร่งออกมาตรการสกัดกั้น 

อัปเดตสถานการณ์การระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ซึ่งเกิดการระบาดตั้งแต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ขณะนี้มีกลายประเทศทั่วโลกเริ่มติดเชื้อไปแล้วกว่า 21  ประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน กว่า 247 รายทั่วโลก

 

  • แอฟริกาใต้  ผู้ติดเชื้อมากกว่า 183 ราย
  • บอตสวานา ผู้ติดเชื้อ  19 ราย
  • เบลเยี่ยม ผู้ติดเชื้อ  1 ราย
  • ฮ่องกง ผู้ติดเชื้อ  7 ราย 
  • อิสราเอล ผู้ติดเชื้อ  2  ราย
  • เยอรมัน ผู้ติดเชื้อ  10 ราย
  • อิตาลี             ผู้ติดเชื้อ  4 ราย
  • เนเธอร์แลนด์ ผู้ติดเชื้อ  16 ราย
  • เดนมาร์ก ผู้ติดเชื้อ   6 ราย
  • ออสเตรเลีย ผู้ติดเชื้อ  6 ราย
  • แคนาดา ผู้ติดเชื้อ  6 ราย
  • สาธารณรัฐเช็ก ผู้ติดเชื้อ  1 ราย
  • โปรตุเกส ผู้ติดเชื้อ  13 ราย
  • สหราชอาณาจักร ผู้ติดเชื้อ  22 ราย
  • สวีเดน ผู้ติดเชื้อ   4  ราย
  • ญี่ปุ่น ผู้ติดเชื้อ  2 ราย
  • สเปน ผู้ติดเชื้อ  1 ราย
  • ออสเตรีย ผู้ติดเชื้อ  4 ราย
  • สวิตเซอร์แลนด์ ผู้ติดเชื้อ   3 ราย
  • บราซิล ผู้ติดเชื้อ  2 ราย
  • ฝรั่งเศส ผู้ติดเชื้อ  1 ราย
  • กาน่า ผู้ติดเชื้อ  33 ราย
  • เกาหลีใต้ ผู้ติดเชื้อ    5 ราย 
  • ซาอุดิอาระเบีย ผู้ติดเชื้อ    1 ราย
  • ไอร์แลนด์ ผู้ติดเชื้อ    1 ราย

สำหรับมาตรการและการรับมือของแต่ละประเทศ มีดังนี้

  • ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2564 ห้าม 8 ประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา โดยมีประเทศเป้าหมายได้แก่ บอตสวานา  เอสวาตินี  เลโซโท มาลาวี  โมซัมบิก  นามิเบีย  ซิมบับเว แอฟริกาใต้  ส่วนผู้ที่เข้ามาแล้วจะต้องกักตัว 14 วัน
  • อิสราเอล ประกาศเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2564 ห้ามต่างชาติเช้าประเทศนาน 2 สัปดาห์ ส่วนคนอิสราเอลหากเดินทางเข้ามาจะต้องกักตัว
  • อังกฤษ ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศอังกฤษจะต้องตรวจหาโควิดด้วยวิธี RT-PCR รายภายใน 2 วัน หลังจากที่เดินทางมาถึงและต้องกักตัวจนกว่าผลตรวจจะออก
  • ออสเตรเลีย ห้ามต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทสในแถบแอฟริกาใต้ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาเข้าประเทศ
  • สิงคโปร์ เพิ่ม 7 ประเทศในแถบแอฟริกาใต้ในบัญชีแดงประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่ห้ามเดินทางเข้ามาสิงคโปร ์
  • ญี่ปุ่น ห้ามต่างชาติทุกประเทศเข้าพื้นที่จนกว่าจะมีมาตรการรับมืออย่างชัดเจน
  • อิหร่าน ห้ามนักเดินทางจาก 6 ประเทศแอฟริกาใต้เข้าประเทศ
  • บราซิล ห้ามนักเดินทางจาก 6 ประเทศแอฟริกาใต้เข้าประเทศ
  • สหรัฐอเมริกา ระงับเที่ยวบินจาก 8 ประเทศในแอฟริกาใต้
  • สหภาพยุโรป ระงับการเดินทางของต่างชาติทีมาจาก 7 ประเทศในแอฟริกาใตในช่วง 14 วัน
  • แคนาดา ห้ามต่างชาติที่เดินทางมาจาก 7 ประเทศในแอฟริกา

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ อนุมัติจัดงานลอยกระทง พร้อมกำชับให้หน่วยงานในพื้นที่จัดงานลอยกระทงต้องมีมาตรการกำกับดูแลความปลอดภัย โดยต้องตรวจความพร้อมก่อนถึงวันงาน 1 สัปดาห์

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้หน่วยงานสามารถจัดงานประเพณีลอยกระทง พ.ศ. 2564 เพื่ออนุรักษ์ สืบสานและส่งเสริมประเพณีลอยกระทงที่ทรงคุณค่า โดยอาศัยหลัก COVID-Free Setting (มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร) และ Universal Prevention (การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล) โดยมีแนวทางและมาตรการรณรงค์ ในการจัดงานประเพณีลอยกระทง ดังนี้

1) ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามปล่อยโคมลอย งดเล่นดอกไม้ไฟ พลุ ประทัด รณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า เป็นต้น

2) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับการจราจรทั้งทางบกและทางน้ำ ตรวจสอบความเรียบร้อยของยานพาหนะที่จะใช้รับส่งประชาชนในช่วงประเพณีลอยกระทง

และ 3) ขอความร่วมมือผู้จัดงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงวัฒนธรรม โดยการควบคุมผู้ร่วมงานไม่ให้แออัด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา กำหนดให้เว้นระยะห่างทางสังคมในทุกกิจกรรม

ในด้านการเตรียมความพร้อมสถานที่ ให้ทุกสถานที่ที่จัดงานประเพณีลอยกระทงจะต้องมีจุดคัดกรองอุณหภูมิ จัดให้มีจุดลงทะเบียน “ไทยชนะ” ก่อนเข้าและออก จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ จัดจุดทิ้งขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสทั้งก่อนและหลังการจัดงาน และทำความสะอาดห้องสุขาทุก 1-2 ชั่วโมง หากภายในงานมีการแสดงให้ทำความสะอาดก่อนและหลังการแสดงทุกรอบ

ในส่วนการจัดงานลอยกระทง นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ผู้จัดงานและหน่วยงาน ต้องดำเนินการตามมาตรการกำกับดูแลความปลอดภัย และมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยต้องตรวจความพร้อมก่อนถึงวันงาน 1 สัปดาห์ หากพบว่าไม่มีความพร้อมจะระงับไม่ให้จัดงาน