สั่งปิดน่านน้ำ เร่งกู้ซาก "เรือล่ม" ค้นหาผู้สูญหาย

เร่งกู้ซากเรือยนต์ล่ม ลูกสาวเล่าอาถรรพ์ น้ำวนหน้าวัดพนัญเชิง หวังปาฏิหาริย์พ่อแม่รอดตาย

เหตุเรือยนต์ลากจูงเรือโป๊ะบรรทุกสินค้า ล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นเหตุให้นายสมชาย ธารากูล อายุ 60 ปี คนขับเรือยนต์ลากจูง และนางนฤมล ธารากูล อายุ 50 ปี ภรรยา ผู้ช่วยควบคุมเรือที่สูญหาย กู้ภัยช่วยกันค้นหายังไม่พบ เนื่องจากกระแสน้ำแรง ลึกไหลเชี่ยว

มีคลิปเหตุการณ์ เห็นนาทีที่นายสมชายพยายามบังคับเรือยนต์ เร่งเครื่องดึงประคองเรือโป๊ะไม่ให้เสียเส้นทางเดินเรือไหลไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง แต่เรือของนายสมชาย เกิดเสียหลักขวางทางน้ำ ทำให้เรือพลิกคว่ำ พาร่างนางนฤมลจมไปกับสายน้ำพร้อมด้วยนายสมชายสามี จนถึงขณะนี้ยังไม่พบร่าง

โดยจุดเกิดเหตุอยู่กลางสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสักไหลมาบรรจบกัน มีกระแสน้ำไหลแรงเชี่ยว เป็นวังน้ำวน พบคราบน้ำมันและข้าวของจากเรือยนต์ลากจูงที่จม ลอยอยู่กลางแม่น้ำ การค้นหาผู้สูญหายเป็นไปอย่างลำบาก จากการสอบสวน นายนพดล แซ่ดัน ผู้จัดการฝ่ายจัดการเดินเรือ ของบริษัท ซีพีไอ ทรานสปอตร์ จำกัด กล่าวว่าเรือยนต์ที่ ลากจูง จมสูญหายไปภายในแม่น้ำ อยู่ระหว่างลากจูงเรือบรรทุกสินค้าจำนวน 5 ลำ บรรทุกแร่ มาจาก เกาะสีชัง เพื่อไปส่งที่ท่าเทียบเรือ ใน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยา กับป่าสักเป็นจุดที่อันตราย ตนเองต้องมาดูการลากจูง

เมื่อมาถึงทราบว่าเรือยนต์ที่ลากจูงเกิดล่มจมสูญหายไปแล้ว เรือยนต์ลากจูงที่เรือ ต้องลากเรือบรรทุกสินค้าไปส่ง ที่ท่าเทียบเรือ ส่วนเรือยนต์ที่ลากจูง เป็นเรือเหล็ก ขนาดความยาวประมาณ 12 เมตร จมสูญหายไป มีคนขับเรือและภรรยา จมน้ำสูญหายไป

ด้านกลุ่มผู้ประกอบการเรือยนต์ลากจูงนับสิบลำ ออกมาช่วยกู้ซากเรือยนต์ที่จมลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร รู้ตำแหน่งเรือแล้วจาก GPS ของเรือที่จมอยู่ก้นแม่น้ำเจ้าพระยาตรงจุดกระแสน้ำวนไม่ห่างจากจุดที่เรือจมมากนัก เมื่อรู้ตำแหน่งเรือกลุ่มผู้ประกอบการเรือยนต์ได้ใช้เชือกผูกกับสมอเรือ โชยเชือกกว้านหวังให้สมอเรือเกี่ยวติดเรือดึงขึ้นมา ท่ามกลางกระแสน้ำทั้งเจ้าพระยาและป่าสักที่ไหลเชียวกราดกลายเป็นหลุมน้ำวนขนาดใหญ่ ทั้งหมดพยายามใช้เชือกผูกสมอเรือกว้านตามตำแหน่ง GPS หลายรอบก็ยังไม่สามารถเกี่ยวติดเรือมาได้และพบว่าตำแหน่ง GPS ของเรือขยับไหลหมุนไปตามกระแสน้ำวนก้นแม่น้ำด้วย ทีมกู้ซากเรือและค้นหาผู้สูญหายทั้งสองคนก็ยังคงพยายามค้นหาและกู้ซากเรือให้ได้

ขณะที่นางสาวจุฑาทิพย์ การกสิขะวิที อายุ 41ปี ลูกสาวของผู้สูญหายบอกว่า ตนเองเคยอาศัยอยู่เรือกับพ่อมาแต่เกิดรู้และทราบดีกระแสน้ำหน้าวัดพนัญเชิงเชี่ยวกราดเป็นน้ำวน น้ำลึกมากใต้น้ำกระแสน้ำไหลแรงมากเมื่อกระแสน้ำสองสาย เจ้าพระยา ป่าสัก ไหลมาบรรจบกันจะกลายเป็นน้ำวนดูดเรือชาวเรือจะรู้ดี แต่ละปีจะมีเรือถูกน้ำวนดูดจมลงประจำ กลายเป็นสายน้ำอาถรรพ์ชาวเรือรู้จักดี เรือทุกลำที่จะผ่านช่วงน้ำวน จะต้องจุดธูปบอกกล่าวเสียก่อนที่จะนำเรือผ่านไปได้อย่างปลอดภัย คนเรือเขาจะรู้ดี ยังเชื่อเรื่องปฏิหาริย์มีจริงขอให้พ่อและแม่รอดปลอดภัย

ด้านกรมเจ้าท่าอยุธยาสั่งปิดน่านน้ำ ห้ามเรือบรรทุกสินค้าผ่าน และเร่งกู้ลำที่จม ซึ่งนักประดาน้ำจะค้นหาต่อไป