อัพเดทข่าวสารบ้านเมือง

cover-photo-3tnew

รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เล็งเปิดเลนเพิ่มแก้รถติดพระราม 2

รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เล็งเปิดเลนเพิ่มแก้รถติดพระราม 2

ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาจากเหตุการณ์แผ่นปูนสะพานกลับรถหล่นทับรถยนต์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์สร้างและบูรณะ ระยะที่ 3, แขวงทางหลวงสมุทรสาคร, ตำรวจภูธรจังหวัด, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด, สำนักงานจังหวัด, ประชาสัมพันธ์จังหวัด เข้าร่วมประชุม ในที่ประชุม นายธีรพัฒน์ พร้อมด้วยหลายหน่วยงานร่วมหารือ ในเบื้องต้นให้แก้ไขบรรเทาปัญหารถติดที่มีปริมาณรถติดสะสมประมาณ 6-7 กิโลเมตร และให้กรมทางหลวงเร่งวิเคราะห์สภาพสะพานโดยเร่งด่วนว่าสภาพเสียหายมากน้อยแค่ไหน สะพานมีปลอดภัยหรือเปล่า สามารถเปิดถนนให้รถได้สัญจรได้หรือไม่ หากพบชำรุดมาก เสี่ยงอันตรายเปิดไม่ได้ ขอให้เปิดช่องทางพิเศษ รีเวิร์ส เลน หากต้องเปิดขอให้เปิดโดยด่วนเพื่อบรรเทาการจราจรติดขัด และขอให้กรมทางหลวงให้ทำป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางการจราจรให้ประชาชนทราบเป็นระยะ

สำหรับเหตุการณ์เหตุแผ่นปูนสะพานกลับรถหล่นทับรถยนต์ ถนนพระราม 2 กม.34 ขาเข้า กรุงเทพฯ บริเวณหน้าโรงพยาบาลวิภาราม หมู่ที่ 2 ตำบลบางกระเจ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส 2 คน คือ นางสาวลัคขณา จงศิริโรจน์กุล คนขับรถยนต์เก๋ง ถูกนำส่งตัวที่ รพ.มหาชัย กลับบ้านไปแล้ว อีกคน นายฉัตรชัย ศิริมาศ คนงานบาดเจ็บฟกช้ำ อาการปลอดภัย แต่หมอให้รอตรวจร่างกายอีกรอบที่ รพ.สมุทรสาคร หากไม่มีอะไรจะให้กลับบ้านบ่ายนี้ และส่วนคนที่เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ นางสาวสุวรรณี รักท้วม อายุ 40 ปี ผู้ตายที่นั่งมาในรถเก๋ง และนายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี คนงานที่ตกลงมาและเสียชีวิต

ด้านนายธีรพัฒน์ กล่าวภายหลังประชุมว่า ทางจังหวัดได้เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าประชุมเพื่อที่จะวิเคราะห์สถานการณ์หาแนวทางในการปฏิบัติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนสาเหตุนั้น วันนี้เราก็มีการวิเคราะห์ร่วมกันทุกหน่วย สรุปว่าเราจะพยายามหาทางเปิดช่องทางเดินรถเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหารถติดและการเดินทางเข้า กทม. โดยจะทราบว่าความแข็งแรงในเชิงวิศวกรรมที่สะพานตัวนี้จะมีเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะฉะนั้นคงต้องรอให้วิศวกรเป็นคนตอบเรา เราจึงจะเดินหน้าหาทางในการแก้ปัญหาการเดินรถ สำหรับสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ ศูนย์ซ่อมสะพานกรมทางหลวง เป็นผู้ดำเนินการ เพราะเป็นการซ่อมเองของกรมทางหลวง เนื่องจากสะพานแห่งนี้มีการชำรุดมากและเป็นอันตรายตั้งแต่แรกจึงมีความจำเป็นต้องปิดสะพานกลับรถแห่งนี้เพื่อทำการซ่อมแซม ส่วนที่มีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุนั้นต้องให้วิศวกรมาวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของโครงสร้างเพื่อจะได้มีคำตอบต่อไป