อัพเดทข่าวสารบ้านเมือง

cover-photo-3tnew

ย้ำชัด! เล่นน้ำสงกรานต์ได้เฉพาะพื้นที่ควบคุม ประแป้งและปาร์ตี้โฟม ยังห้ามอยู่

ย้ำชัด! เล่นน้ำสงกรานต์ได้เฉพาะพื้นที่ควบคุม ประแป้งและปาร์ตี้โฟม ยังห้ามอยู่

รัฐบาล เผยช่วงสงกรานต์ ศบค.อนุญาติให้ประชาชนเล่นน้ำและจัดกิจกรรมตามประเพณีได้แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ควบคุม พื้นที่สาธารณะยังให้งดเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม กำชับ สสจ. ทุกจังหวัด เร่งฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุโดยเร็ว สำหรับการจัดงานภายใต้มาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด โดยนายกฯ กำชับ สสจ. ทุกจังหวัด เร่งสื่อสารสร้างความเข้าใจรณรงค์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มผู้สูงอายุ ขณะที่ภาพรวมการฉีดวัคซีนในไทยมากกว่า 127.77 ล้านโดสแล้ว ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ รวม 25,164 ราย

โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นห่วงช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่องและตรงกับช่วงเวลาพักผ่อนกับครอบครัวที่ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งใจใช้ช่วงเวลานี้เดินทางกลับบ้านเพื่อพบปะญาติพี่น้อง ร่วมทำบุญ และพักผ่อน จึงขอเน้นย้ำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในผู้สูงอายุเพื่อต้อนรับ ลูก-หลาน กลับบ้านอย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมยังฝากไปถึงผู้ที่วางแผนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ขอให้ปฏิบัติตนตามมาตรการ COVID Free Personal ตรวจ ATK ก่อนเดินทาง

ทั้งนี้ นายธนกร กล่าวย้ำว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ที่ผ่านมา ได้มีมาตรการช่วงเทศกาลโดยในพื้นที่จัดงานสงกรานต์ที่มีการควบคุม อนุญาตให้เล่นน้ำและจัดกิจกรรมตามประเพณี เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การละเล่น การแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ การแสดงดนตรี โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมีการกำกับอย่างเคร่งครัด แต่ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม จำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน ในส่วนพื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน หรือพื้นที่สาธารณะทั่วไป ยังไม่อนุญาตให้เล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม

“นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 ก่อน-หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ระวังอย่างใกล้ชิด ขอให้ทุกฝ่าย ทุกคนร่วมมือเพื่อเปลี่ยนกำลังเล็กๆ ให้เป็นพลังสำคัญที่ช่วยควบคุมโรคและทำให้โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น เพื่อที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกับโรคด้วยความปลอดภัยได้”