โฆษกกลาโหม "ขู่เชือด" แก๊งค้ามนุษย์ ลักลอบขนแรงงานเถื่อน

จากกรณี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดสนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเน้นย้ำบริเวณชายแดน 5 อำเภอที่มีแนวเขตติดกับประเทศเมียนมา ประกอบด้วย อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ที่มีระยะทางตามแนวชายแดนรวมกันประมาณ 371 กิโลเมตร

พลเอก คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการจับกุมแรงงานต่างด้าว “พม่าทะลัก” ที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดนฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี เป็นจำนวนมาก ว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นไปตามคาดการณ์ของฝ่ายความมั่นคง เพราะสถานการณ์ในประเทศเมียนมา โดยพบว่า มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น หลังจากผ่านช่วงหน้าฝนนี้

เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐฯ ถูกกลุ่มต่อต้านทำร้าย และได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตหลายราย รวมทั้งกำลังทหารในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับไทย ถูกกองกำลังของชนกลุ่มน้อยเข้าโจมตี รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศเขา และการเปิดประเทศของไทย ทำให้ผู้ประกอบการต้องการแรงงาน “พม่าทะลัก” มากขึ้น จึงประเมินแล้วว่าจะมีผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมากขึ้น รวมถึงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ “พม่าทะลัก”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ดูแลพื้นที่ชายแดนที่ติดกับเมียนมา ซึ่งที่ผ่านมาได้จับกุม “พม่าทะลัก” ผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ จ.กาญจนบุรี ได้หลายร้อยคน แต่ขอให้มั่นใจว่า แม้ไทยจะเปิดประเทศ แต่ฝ่ายความมั่นคงก็จะทำงานหนัก และพร้อมแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับโรคระบาด

สำหรับแรงงานเมียนมา “พม่าทะลัก” ที่เข้ามาในไทย เบื้องต้นก็ต้องให้การดูแล และประสานการส่งกลับ เพราะเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังคงใช้กำลังป้องกันชายแดนที่มีอยู่ ยังไม่ต้องใช้กำลังเพิ่มเติม แต่จะเพิ่มความถี่การลาดตระเวนเฝ้าตรวจมากขึ้น

พร้อมกันนี้กำลังสืบสวนเชิงลึกว่า มีความเชื่อมโยงกับ”พม่าทะลัก” ในการค้ามนุษย์หรือไม่ หากมีความเกี่ยวข้องจะเข้าจับกุม และถ้ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะทำการจับกุม และนำสู่การยึดทรัพย์ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯ ได้กำชับให้เอาผิดทางวินัยและอาญา ยึดทรัพย์ และปลดออกจากราชการ ซึ่งเราทราบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กระทรวงต่างๆ เข้าไปเกี่ยวข้อง รับเป็นรายหัว เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มต่างชาติและคนไทยด้วย “พม่าทะลัก”