หนุ่มซิ่ง "ซาเล้งยกล้อ" กลัวไปทำงานไม่ทัน โดนตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา

กรณีโลกออนไลน์ แชร์ภาพหนุ่มซิ่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยกล้อตั้งแต่ช่วงถนนนครอินทร์ตลอดสาย มุ่งหน้าวงเวียนพระราม 5 ขาออกถนนกาญจนาภิเษก โดยคนขี่ไม่ได้ขี่รถพ่วงข้างตามปกติ ไม่ได้สวมหมวกนิรภัยอยู่บนถนนทางสาธารณะในขณะที่มีรถคันอื่นๆ ใช้ถนนจำนวนมาก อีกทั้งระหว่างขี่รถจยย.พ่วงข้างผู้ขับขี่รายนี้ยังขืนรถตะแครงล้อไปตลอดเส้นทาง ถือเป็นการขับขี่รถโดยประมาท และน่าหวาดเสียว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของบุคคลอื่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2564 เวลาประมาณ 08.52 น. นั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2564 เวลาประมาณ 15.00 น. ทาง พ.ต.อ.ศิวัช ศรีวิชัย ผกก.สภ.บางกรวย ได้สั่งการชุดสืบสวนออกสืบสวนติดตาม จนกระทั่งพบว่าผู้ขับขี่รายนี้คือ นายประพันธ์ หรือหนึ่ง อุดมรักษ์ อายุ 34 ปี วันเกิดเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ สีแดง-น้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บขธ -518 กทม. พักอาศัยอยู่ที่ซอยวิภาวดี 11 แยก 10แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

โดยนายหนึ่ง รับว่าตนเองเป็นบุคคลตามคลิปจริง เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้เชิญตัวพร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ มา สภ.บางกรวย และได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายประพันธ์ หรือ หนึ่ง อุดมรักษ์ ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับรถ, ไม่มีเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี, ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น, ดัดแปลงตกแต่ง ต่อเติมรถจยย.โดยผิดกฎหมาย ทาง พ.ต.อ.ถาวร ดุยลวิทย์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้เดินทางมาสอบสอบและสอบปากคำ นายหนึ่งด้วยตนเอง โดยนายหนึ่งรับว่าวันนั้นรถยางแตก ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่าเลยจำเป็นต้องขี่รถจยย.เอียงข้างแบบตะแครงล้อ หรือยกล้อ หลังสอบสวนเสร็จสิ้นจากนั้นจะส่งตัวนายหนึ่งไปฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี

โดยคดีดังกล่าวทาง พล.ต.ต.ยงยุทธ เทพจำนงค์ โฆษก สตช.เห็นภาพทางสื่อโซเชียลแล้วได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อด้วยความไม่สบายใจ พร้อมบอกว่าการทำแบบนี้จะมีโทษหนักอาจติดคุกได้ จนทาง สภ.บางกรวย ต้องรีบตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบตัวว่าเป็นนายหนึ่ง จึงติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในเวลาต่อมา