กระติก-แซน อัยการเลื่อนสั่งฟ้องคดีแตงโม 3 ครั้ง เสียเวลาเรื่องไม่ถึงศาล
ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี นัดผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในคดีแตงโม มารับฟังคำสั่งฟ้องคดี แต่อัยการนนทบุรีมีความเห็นเลื่อนรับฟังคำสั่งฟ้องเป็นครั้งที่ 3 ไปเป็นวันที่ 3 ส.ค. 65 เวลา 10.00 น. โดยทางด้าน กระติก อิจศรินทร์ และ แซน วิศาพัช พร้อมทนายความส่วนตัวของทั้งสองคน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังอัยการนนทุบรีเลื่อนสั่งฟ้องคดีแตงโมอีกครั้ง โดยนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความส่วนตัวของกระติก อิจศรินทร์ เผยว่า เหตุที่ต้องเลื่อนสั่งฟ้องคดีออกไปเป็นครั้งที่ 3 เนื่องจากอธิบดีอัยการภาค 1 ยังไม่ส่งสำนวนกลับมา
ในขณะที่ กระติก กล่าวว่า ขณะนี้ที่ตนมีสถานะเป็นผู้ต้องหา รู้สึกว่าอยากเป็นจำเลยแล้ว จะได้ไปต่อสู้คดี เพราะตอนนี้ที่เป็นผู้ต้องหาก็ต้องโดนเรียกสอบ โดนเรียกอะไรเพิ่มเติม และเราก็ต้องให้ความร่วมมือ ถ้าไม่ให้ความร่วมมือเราก็โดนแจ้งข้อกล่าวหามาอีก รู้สึกว่าเราเดือดร้อนเสียเวลา และยังมีเรื่องของคนนอกสำนวนที่พยายามเข้ามาในสำนวนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะความหิวแสงหรืออะไรก็ตาม
ส่วนขิงด้านแซน กล่าวเพิ่มเติมถึง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่อ้างว่ามีหลักฐานสำคัญว่าการเสียชีวิตของแตงโมเป็นเหตุฆาตกรรม ว่า ไม่ทราบว่าเขามีเจตนาอะไร แต่ว่ามันทำให้ปั่นป่วนกันไปหมดในทุกขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม เขาเอาเรื่องเล็กๆที่คนไม่ควรจะโฟกัส เอามาเป็นประเด็นให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต ตนว่าเขาน่าจะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องทางด้านกฎมหมาย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ออกมาพูดอย่างที่ผ่านมา ทำไมเขาไม่ไปก่อร่างสร้างตึกอย่างที่เรียนมา เขาจบทางด้านนั้นมาน่าจะเก่งกว่า ไม่ใช่มานั่งปั้นน้ำเป็นตัวแบบนี้ ควรจะหยุดได้แล้ว และถ้าเขาหาทางลงไม่ได้ก็ควรจะขอโทษ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนคนรุ่นหลัง เพราะอย่างน้อยทำผิดแล้วขอโทษเป็น ซึ่งก็เป็นคนเดียวที่มีปัญหา ณ ตอนนี้
หลังจากนั้นเวลา 13.00 น. ทางกระติก และแซน 2 ผู้ต้องหาใน คดีแตงโมตกเรือ ได้เดินทางมาที่ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องขอให้ทางอัยการสูงสุด ช่วยพิจารณาคดีนี้ โดยเข้ามายื่นหนังสือให้กับนาย กฤษฎา กสานติกุล รองโฆษก สำนักอัยการสูงสุด เพื่อร้องขอความเป็นในเรื่องของการพิจารณาคดี ขอให้คดีไปด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรมต่อผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ที่กำลังตกเป็นจำเลยสังคมในตอนนี้ ไปเร่งรัดสำนวน เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วไปสู้กันในชั้นศาล